เลื่อนขึ้น
ทัวร์ถูก ทัวร์เกาหลี ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์ดี ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์ทั่วโลก ทัวร์ราคาถูก ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์บริการดี ทัวร์บริการประทับใจ ทัวร์ดีมีคุณภาพ
  
 
ประเทศ:
ทัวร์ยุโรป ทัวร์ยุโรป
เข้าชม:
53
รหัสทัวร์:
BI-UR97
สายการบิน:
Singapore Airlines
ทัวร์ยุโรป

ทัวร์ยุโรป มหัศจรรย์อิตาลี สวิส ฝรั่งเศส | 10D7N
ราคาเริ่มต้น 119,999.-

ทัวร์ยุโรปกรุงโรม • ปิซ่า • หอเอนเมืองปีซ่า • เมืองเวนิสเมสเตร้ เวนิสเมสเตร้ • เกาะเวนิส • จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค • มหาวิหารซันมาร์โก • พระราชวังดอร์จ • หอระฆังซันมาร์โก • สะพานถอนหายใจ • สะพานรีอาลโต้ • เวนิสเมสเตร้ มหาวิหารมิลาน • กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด • เมืองอินเทอลาเก้น • ถนน Hoheweg เมืองดิฌง • รถไฟความเร็วสูง (TGV) • พระราชวังแวร์ซายส์ •
ทัวร์ยุโรป ทัวร์ยุโรป

สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ยุโรป

วันที่ 1  สนามบินสุวรรณภูมิ • สนามบินนานาชาติชางฮี
วันที่ 2  สนามบินนานาชาติชางฮี • กรุงโรม• นครรัฐวาติกัน • มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ • โคลอสเซี่ยม • โรมันฟอรั่ม
วันที่ 3  กรุงโรม • ปิซ่า • หอเอนเมืองปีซ่า • เมืองเวนิสเมสเตร้
วันที่ 4  เวนิสเมสเตร้ • เกาะเวนิส • จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค • มหาวิหารซันมาร์โก • พระราชวังดอร์จ • หอระฆังซันมาร์โก • สะพานถอนหายใจ • สะพานรีอาลโต้ • เวนิสเมสเตร้
วันที่ 5  มหาวิหารมิลาน • กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด • เมืองอินเทอลาเก้น • ถนน Hoheweg
วันที่ 6  เมืองกรินเดอวาลด์ • กระเช้า Eiger Express • อุโมงค์น้ำแข็ง • อุโมงค์โลกอัลไพน์ • Jungfrau Panorama view • เมืองเลาเทอร์บรุนเนน • เมืองดิฌง
วันที่ 7  เมืองดิฌง • รถไฟความเร็วสูง (TGV) • พระราชวังแวร์ซายส์ •
วันที่ 8  จัตุรัสทรอกาเดโร • ถ่ายรูปคู่หอไอไฟล • ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ • ล่องเรือแม่น้ำแซน •พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ • ช้อปปิ้งห้างลา ซามาริแตง
วันที่ 9  สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกลด์ • สนามบินนานาชาติชางฮี
วันที่ 10  สนามบินนานาชาติชางฮี • สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

อัตราค่าบริการ
วันเดินทาง จำนวน ผู้ใหญ่ เด็ก
อายุต่ำกว่า 12 ปี
พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน
เด็ก
อายุต่ำกว่า 6 ปี
พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน
(ไม่เสริมเตียง)
พักเดี่ยวเพิ่ม
08 – 17 เมษายน 2567 26+1 119,999 119,999 118,999 +17,000

ทัวร์ยุโรป ทัวร์ยุโรป

โปรแกรมการเดินทางทัวร์ยุโรป

กล่องข้อความ: วันแรก	สนามบินสุวรรณภูมิ • สนามบินนานาชาติชางฮี																			     ä (-/-/-)
17.00 น.         พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ประตู 3 เคาน์เตอร์ D  สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ (SQ) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน
20.10 น.         ออกเดินทางสู่ ประเทศสิงคโปร์ โดยเที่ยวบินที่ SQ713  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

 
กล่องข้อความ: วันที่สอง	สนามบินนานาชาติชางฮี • กรุงโรม• นครรัฐวาติกัน • มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ • โคลอสเซี่ยม • โรมันฟอรั่ม								     	ä (-/กลางวัน/เย็น)
01.30 น.         ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติชางฮี ประเทศอิตาลี โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ366
08.05 น.         เดินทางถึงเดินทางถึง ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Aeroporto Leonardo da Vinci di Fiumicino)  (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
 เดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (STATE OF THE VATICAN CITY) นครแห่งคริสตจักรที่อยู่ในกรุงโรม  ถือเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนิกชน นิกายโรมันคาทอลิก เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญ นำท่านเข้าชม มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ ( ST. PETER’ BASILICA) ศาสนสถานของคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ฝังพระศพของพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่ถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการตรึงไม้กางเขนในสมัยของจักรพรรดิเนโร เมื่อปี ค.ศ. 68 ถือเป็นศูนย์รวมทั้งทางกายและทางใจของวาติกัน โดยมหาวิหารแห่งนี้ได้สร้างทับวิหารหลังเดิมที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 4 ออกแบบโดยมีเกลันเจโลสุดยอดจิตกรร่วมสมัยกับดาวินชี่ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยหินอ่อน โดยมีประติมากรรมชื่อก้องโลกอย่าง ปีเอต้า (Pietà) เป็นรูปปั้นพระแม่นารีย์ทรงโอบอุ้มพระเยซูหลังจากสิ้นพระชนม์ ซึ่งทำจากหินอ่อนเพียงก้อนเดียวและใช้เวลาในการแกะสลัก 7 ปี บริเวณด้านหน้าคือ จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ (St. Peter's Square) ออกแบบโดย จาน ลอเรนโซ เบอร์นินี อีกหนึ่งประติมากรผู้ได้ฉายาว่า สามารถเสกหินอ่อนให้หายใจได้ จัตุรัสสามารถจุคนได้ประมาณ 60,000 คน ตรงกลางมีเสาโอบีสิสหินแกรนิตแดง สูง 25.5 เมตร จากอียิปต์ ซึ่งเป็นการแสดงถึงแสงยานุภาพของโรมันที่มีต่อประเทศในยุโรปและแถบเมดิเตอร์เรเนียนในขณะนั้น (ในกรณีมีพิธีด้านใน อาจจะไม่ได้รับการเข้าชม)
เที่ยง                ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านแวะถ่ายบริเวณด้านนอก โคลอสเซี่ยม (COLOSSEUM) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ฟราเวียนแอมฟิเธียเตอร์ อีก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ต้นแบบของสนามกีฬาของโลก เป็นแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโรมัน สร้างขึ้นในสมัยของจักพรรดิเวสปาเซียนในปี ค.ศ. 70 ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการในอีก 10 ปีต่อมาในสมัยพระเจ้าไททัส เป็นสนามกีฬาที่จะเป็นการประชันการต่อสู่ระหว่างเหล่านักรบกลาดิเอเตอร์ด้วยกันเอง และกับสัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต ช้าง แรด เป็นต้น โดยบ้างก็กล่าวกันว่าการต่อสู้ในโคลอสเซี่ยมทำให้สัตว์บางชนิดแทบจะศูนย์พันธุ์เลยทีเดียว การสร้างอาคารแบบอัฒจันทร์กลม 3 ชั้นขนาดใหญ่แห่งนี้ยังถือว่าเป็นการผลิตซีเมนต์แห่งแรกๆ ของโลกอีกด้วย บริเวณใกล้กันท่านสามารถเดินถ่ายรูปด้านหน้า กับ โรมันฟอรั่ม (ROMAN’S FORUM) อดีตศูนย์กลางทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของอาณาจักรโรมัน โดยบริเวณนี้นั้นเป็นที่ตั้งของประตูชัย 2 แห่ง ที่เป็นต้นแบบของฝรั่งเศส นั่นคือ ประตูชัยคอนสแตนติน สร้างขึ้นในครั้งที่พระเจ้าคอนสแตนตินได้ชัยชนะเหนือพระเจ้าแมกเซนเทียส และประตูชัยไททัสที่สร้างขึ้นหลังจากได้รับชัยชนะเหนือเมืองเยลูซาเล็มในปีค.ศ. 81

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก                Novotel Roma Est หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

กล่องข้อความ: วันที่สาม	กรุงโรม • ปิซ่า • หอเอนเมืองปีซ่า • เมืองเวนิสเมสเตร้															 ä (เช้า/เที่ยง/เย็น)
เช้า                  ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.20 ชม.) แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร จตุรัสดูโอโมแห่งปิซาได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1987นำท่าน
เที่ยง                ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาท้องถิ่น
ชม จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza del Duomo Pisa) ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของเมือง ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้จะประกอบไปด้วย หอศีลจุ่ม วิหาร และหอระฆัง ซึ่งที่นี่มีหอระฆังที่โด่งดังระดับโลก นั้นคือ หอระฆังเอน แห่งเมืองปิซ่า นำท่านชมบริเวณรอบหอระฆังแห่งนี้พร้อมเก็บรูปเป็นที่ระลึกกับ หอเอนเมืองปีซ่า (LEANING TOWER OF PISA) หอระฆังทรงกระบอก 8 ชั้น  โดยเอกลักษณ์และสาเหตุที่ทำให้หอระฆังแห่งนี้ได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั้นคือการที่ตัวอาคารมีลักษณะเอียงไปทางเหนือประมาณ 3.97 องศา

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิสเมสเตร้ (Venice Mestre) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.)  ฝั่งแผ่นดินใหญ่เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต
ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก                Hotel Novotel Venezia Mestre Castellana หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

กล่องข้อความ: วันที่สี่	เวนิสเมสเตร้ • เกาะเวนิส • จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค • มหาวิหารซันมาร์โก • พระราชวังดอร์จ • หอระฆังซันมาร์โก • สะพานถอนหายใจ • สะพานรีอาลโต้ • เวนิสเมสเตร้	ä (เช้า/เที่ยง/เย็น)
เช้า                  ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิสหรือเวเนเซีย(VENEZIA) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณ ซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส นำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค (St.Mark’s Square) ที่จักรพรรดินโปเลียนยกย่องว่าเป็นห้องรับแขกที่สวยที่สุดของยุโรป และยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารซันมาร์โก (San Marco Basillica) มหาวิหารประจำเขตอัครบิดรเวนิส สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากถูกทำลายไปเกือบหมดสิ้นในครั้งที่ออกโตมันเข้ายึด ซึ่งภายในโบสถ์นั้นจะมีภาพโมเสกบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนั้นอยู่ โดยเซ็นท์มาร์โกถือว่าเป็นนักบวชที่สำคัญในการเผยแพร่ศาสนาในสมัยศตวรรษที่ 5 สำหรับตัวมหาวิหารจะเชื่อมกับ พระราชวังดอร์จ(Doge’s Palace)  พระราชวังแบบเวนิส-โกธิคที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของยุคแห่งเวนิสครั้งที่เมืองนี้ยังเป็น สาธารณะรัฐเวนิส ก่อนได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1923 และยังมี หอระฆังซันมาร์โก (St Mark’s Campanile) หอระฆังสูง 98.6 เมตร โดยอิงการสร้างจากรูปแบบเดิมในปี 1514 และพังทลายลงในปี 1902 ไม่ไกลกันจะเป็นที่ตั้งของ สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สะพานซุ้มโค้งที่เชื่อมระหว่างพระราชวังดอร์ดและเรือนจำ นำท่านชมบริเวณ สะพานรีอาลโต้ (Rialto Bridge) สะพานข้ามคลองหลักอันเก่าแก่ที่สุดของเวนิส รายล้อมไปด้วยร้านค้าต่างๆ ถ่ายภาพกับจุดชมวิวบนสะพาน ที่ท่านสามารถมองเห็น GRAND CANAL คลองที่ใหญ่ที่สุด ผ่ากลางเกาะเวนิส ชมวิถีชีวิตกลางสายน้ำของชาวท้องถิ่นที่ใช้คลองแทนถนน
 แต่เรื่องที่ทำสะพานนี้โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น นักรักบันลือโลกแห่งเวนิสอย่าง จิอาโคโม จิโรลาโม คาสโนวา เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถออกจากเรือนจำแห่งนี้ได้ โดยเรื่องราวของชายหนุ่มมากด้วยวาทะศิลป์คนนี้ถูกตีพิมพ์และโด่งดังในปี 1855 และถูกทำเป็นภาพยนตร์ในปี 2005

**หมายเหตุ ทั้งนี้ไม่รวมค่านั่งเรือกอนโดล่า หากท่านสนใจนั่งเรือกอนโดล่า
สามารถแจ้งทางหัวหน้าทัวร์เพื่อประสานงานให้ได้
ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ท่านติดต่อกับเรือเองเพื่อความปลอดภัยของท่านเนื่องจากอาจมีมิจฉาชีพแอบแฝงตัวมา
กลางวัน           ä บริการอาหารกลางวัน ด้วยเมนู เมนูสปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำเวนิส
 
จากนั้นนำท่านล่องเรือกลับขึ้นสู่ฝั่งเมสเตร้ นำท่านเดินทางสู่ มิลาน (MILAN) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชม.) เมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ
ค่ำ                    ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก                NH Milano Fiera หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

กล่องข้อความ: วันที่ห้า	มหาวิหารมิลาน • กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด • เมืองอินเทอลาเก้น • ถนน Hoheweg									 ä (เช้า/เที่ยง/เย็น)
เช้า                  ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มหาวิหารมิลาน (Duomo di Milano) หนึ่งในโบสถ์ศริสต์สถาปัตยกรรมกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในวิหารเชื่อกันว่ามีการบรรจุหมุดตรึงไม้กางเขนของจริงที่ใช้ในการประหารชีวิตพระเยซู บริเวณด้านหน้าตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนอย่างสวยงาม

นอกจากนั้นหากมีเวลาให้ท่านได้เพลิดเพลินกับช้อปปิ้งมอลล์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปที่ กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่อัดแน่นไปด้วย แบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Prada, Versace, Armani, Dolce & Gabbana, Valentino รวมไปถึงแบรนด์เนมที่คุ้นหู อีกมากมายอย่าง Gucci, LOUIS VUITTON, Swarovski
เที่ยง                ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาท้องถิ่น
เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ช.ม.) จุดศูนย์กลางของประเทศ ที่รายล้อมไปด้วย 4 ขุนเขา และ 2 ทะเลสาบ พาท่านเดินชม ความงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง พาท่านเดินชม ถนน Hoheweg จุดที่ครึกครื่นที่สุดในเมืองอินเทอลาเก้น ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสวิสได้อยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Omega, Swatch ช็อคโกแลตสวิสที่ขึ้นชื่อ หรือแม้แต่เสื้อผ้า เครื่องประดับก็ยังมีให้ท่านเลือกสรรได้ตลอดถนนเลยทีเดียว
ค่ำ                    ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษเมนูสวิสชีสฟอง 3 ชนิดชีส ออย และช็อกโกแล็ต แบบจัดเต็ม

ที่พัก                Hotel Central Continental AG หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
 

กล่องข้อความ: วันที่หก        	เมืองกรินเดอวาลด์ • กระเช้า Eiger Express • อุโมงค์น้ำแข็ง • อุโมงค์โลกอัลไพน์ • Jungfrau Panorama view • เมืองเลาเทอร์บรุนเนน • เมืองดิฌง		        ä (เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
 
นำท่านสู่          เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นในการพิชิตยอดเขาจุงฟราว Top Of Europe ด้วยทัศนียภาพที่เป็นหุบเขาที่มีบ้านสไตล์สวิสชาเลย์ตั้งอยู่โดยรอบ ทำให้มีความสวยงามจนเป็นเหมือนหน้าตาของสวิสเซอร์แลนด์ที่คุ้นเคย
ใหม่ล่าสุด!!! พาท่านสู่สถานีกรินเดอวาลด์ เพื่อพาท่านขึ้น กระเช้า Eiger Express ที่เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา โดยจะทำให้ท่านประหยัดเวลาในการพิชิตเขาจุงฟราวเร็วขึ้นถึง 47 นาที เพื่อให้ท่านได้มีเวลาเพลิดเพลินบน Top Of Europe
 เมื่อถึงแล้ว พาท่านชม อุโมงค์น้ำแข็ง (Ice Palace) ที่มีอายุเก่าแก่ 1,000 ปี ธารน้ำแข็งลึกเขาไปกว่า 30 เมตร มีประติมากรรมน้ำแข็งอยู่อย่างมากมาย และคงอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศา ตลอดทั้งปี เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ชม อุโมงโลกอัลไพน์ (ALPINE SENSATION) ที่จัดแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของชาวเมือง
นอกจากนั้นหากมีเวลาแนะนำให้ท่านชม พิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต LINDT และเลือกซื้อกลับเป็นไปเป็นของฝากจากร้านช็อคโกแลตที่สูงที่สุดในโลก และนำท่านขึ้นสู่ JUNGFRAU PANORAMA VIEW จุดสูงสุดของสถานี ที่ 3,571 เมตร ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เที่ยง    ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว ให้ท่านเต็มอิ่มกับบรรยากาศของทิวทัศน์สุดอลังการ
นำท่านลงสู่อีก 1 เมืองชานเขาจุงฟราว เมืองเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen)  เมืองสวยอีกเมืองที่ต้องแวะชม ด้วยรถไฟไต่เขาแสนคลาสสิก ที่นี่เป็นที่ตั้งของ น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach) ที่สูงกว่า 300 เมตร มุมสุดอลังการกับริ้วน้ำตกที่แทรกผ่านหน้าผาสูง โดยมีเบื้องล่างเป็นบ้านเรือนสลับทุ่งหญ้า ที่มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิฌง (DIJON) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) ผ่านชมทัศนียภาพอันงดงามที่เต็มไปด้วยขุนเขาทะเลสาบ และดอกไม้ป่า ที่สวยสดงดงาม ที่จะทำให้ท่านตื่นตาตื่นใจ ตลอดการเดินทางจนทำให้ท่านหลับตาไม่ลง เป็นแห่งเมืองชุมทางรถไฟ และศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่มีลักษณะคล้ายปารีสอย่างมาก เดินทางถึงเมืองดิฌง
ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก                Mercure Dijon Clemenceau หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

 
กล่องข้อความ: วันที่เจ็ด        	เมืองดิฌง • รถไฟความเร็วสูง (TGV) • พระราชวังแวร์ซายส์ •																        ä (เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านนั่ง รถไฟความเร็วสูง (TGV) มุ่งหน้าสู่ กรุงปารีส ซึ่งปกติจะใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถกว่า 4 ชั่วโมง เหลือไม่ถึง 2 ชั่วโมงสู่ มหานครปารีส (Paris) เมื่องหลวงสุดโรแมนติกของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คน ที่มีครบทั้ง สถาปัตยกรรม ศิลปะ อาหาร และแหล่งช้อปปิ้ง ที่มีให้ท่านได้เลือกสรรกันอย่างอัดแน่น
เที่ยง                ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
จากนั้น             นำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles) หนึ่งในพระราชวังที่มีคนพูดถึงมากที่สุด และยังเป็น1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย แต่เดิมนั้นเป็นเพียงเมืองเล็กๆที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์บูร์บงโปรดมาล่าสัตว์เท่านั้นแต่เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่14 ครั้งทรงพระเยาว์ เสด็จตามพระราชบิดามาล่าสัตว์ ทรงโปรดพื้นที่บริเวณนี้มากเมื่อทรงขึ้นครองราชย์นจึงมีพระราชดำรัสให้สร้างพระราชวังแห่งใหม่แทนพระราชวังลูฟท์ที่กรุงปารีสโดยมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระราชวังที่สวยงามที่สุดในโลก

 

ภายในพระราชวังนั้นประกอบไปด้วยห้องหับถึง 700 ห้องมีภาพวาด 6,123 ภาพและงานแกะสลักถึง 15,034 ชิ้นไฮไลท์สำคัญของพระราชวังแห่งนี้คงหนีไม่พ้นห้องกระจกซึ่งบริเวณผนังด้านขวานั้นประดับด้วยกระจกฉาบปรอทมากถึง 17 บาน แต่ละบานมีประกอบด้วยกระจก 21 แผ่นซึ่งในสมัยก่อนนั้นกระจกเป็นสิ่งที่มีราคาสูงมากเทียบเท่าทองคำเลยทีเดียว ซึ่งห้องกระจกแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ในการลงนามสนธิสัญญาสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่1 ระหว่างฝ่านสัมพันธมิตร และฝ่ายจักรวรรดิเยอรมัน
 ห้องกระจกแห่งแวร์ซายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของไทยครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นำโดยออกพระวิสุทธสุนทร ในวันที่ 1 กันยายนปี พ.ศ. 2229 (1686)นับเป็นการส่งคณะฑูตสำเร็จอย่างเป็นทางการครั้งแรกกับชาติยุโรปในประเทศไทย

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พร้อมพิเศษ หอยเอสคาโก้ ต้นตำหรับฝรั่งเศส พร้อมไวน์แดง
ที่พัก                Novotel Paris Est หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

กล่องข้อความ: วันที่แปด	จัตุรัสทรอกาเดโร • ถ่ายรูปคู่หอไอไฟล • ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ • ล่องเรือแม่น้ำแซน •พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ • ช้อปปิ้งห้างลา ซามาริแตง					ä (เช้า/กลางวัน/-)
เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ชมจุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่สวยที่สุด ณ จัตุรัสทรอกาเดโร (TROCADÉRO) แต่เดิมบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศอยู่หลายครั้ง แต่โด่งดังด้วยเพราะทัศนียภาพที่ท่านจะสามารถเห็น หอไอไฟล (EIFFEL) ได้อย่างไม่มีอะไรมาบดบัง โดยหอส่งสัญญาแห่งนี้นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของพาปารีสที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หอไอเฟลนั้น ตั้งตามชื่อของสถาปนิกผู้ออกแบบ กุสตาฟ ไอเฟล เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน แสดงสินค้าโลก ในปี 1889 เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องใดที่จะกล่าวถึงปารีส ก็จะจะต้องมีโครงสร้างเหล็กเจ้าของความสูง 324 เมตร ที่เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก แห่งนี้อยู่ด้วยเสมอ
 ด้วยลักษณะที่แปลกตา สร้างความไม่คุ้นเคยต่อชาวปารีส ถึงขนาดมีการเรียกร้องให้รื้อทิ้งหลังจากงานสิ้นสุดลง แต่หอไอเฟลก็สามารถพิสูจน์ตัวเองและลบคำสบประหม่า จนกลายเป็นสถานที่แรกๆ ที่เมื่อมีคนพูดถึง
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ (ARC DE TRIOMPHE) วงเวียนที่เชื่อมถนน12 เส้นของปารีสไว้ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสดุดีทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามต่างๆ โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน เนื่องจากเริ่มสร้างในรัชสมัยของพระองค์หลังได้รับชัยชนะในสงครามยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1805 นอกเหนือจากนั้น ประตูชัยแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย อาร์กเดอทรียงฟ์ มีความสูง 49.5 เมตร กว้าง 45 เมตร และหนาถึง 22 เมตร ทางทิศตะวันตกยังเป็นที่ตั้งของถนนสายที่โด่งดังที่สุดของโลกสายหนึ่ง นั่นคือ ถนนช็องเซลีเซ (CHAMPS-ÉLYSÉES) ถนนที่ได้ชื่อมาจากสวนสวรรค์ของเหล่าเทพปกรนัมกรีก ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่สวยหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี โดยเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป ทรงมีพระราชดำรัสให้นำรูปแบบถนนช็องเซลีเซ มาสร้างเป็นถนนพระราชดำเนินกลางในกรุงเทพมหานคร ว่ากันว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่บนถนนแห่งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นที่ตั้งของสินค้าแบรนด์ระดับโลกมากมาย จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำแซน ชมบรรยากาศรอบเมืองปารีส เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน เมืองที่โรแมนติกที่สุดของโลกในอีกมุมหนึ่งโดยในระหว่างทางนั้นจะผ่านสถานที่สำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สะพาน PONT DE L'ALMA สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ออร์แซ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รวมไปถึงอาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส  ถือเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปารีส

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (LOUVRE MUSEUM) เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในปารีสที่ต้องไปเยือน
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ห้างลา ซามาริแตง (La Samaritaine) ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie Louise Jay จ้างออกแบบโดยสถาปนิกนามว่า Frantz Jourdain ตกแต่งแบบ Art Nouveau และ Art Déco เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น พัฒนาจากร้านเสื้อผ้าขนาดเล็กจนขยายไปสู่ห้างสรรพสินค้า จากนั้นดำเนินกิจการเรื่องมา จนได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1990 โดยกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ห้างนี้เคยถูกปิดและพัฒนาปรับปรุงอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งเปิดให้สาธารณชนเข้าชมอีกครั้งในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2021 กับคอนเซปต์ใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีทั้ง แฟชั่น อาหาร และงานศิลปะ สินค้าต่างๆรวมแล้วกว่า 600 แบรนด์
เย็น                  อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก                Novotel Paris Est หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น  ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

กล่องข้อความ: วันทีเก้า	สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกลด์ • สนามบินนานาชาติชางฮี									     							ä (เช้า/-/-)
เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ได้เวลาอันสมควร ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส ชาร์ล เดอ โกลด์ เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund)
12.00 น.         ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ335 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

กล่องข้อความ: วันทีสิบ	สนามบินนานาชาติชางฮี • สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ												     ä (-/-/-)
06.50 น.         เดินทางถึง สนามบินนานาชาติชางฮี ประเทศสิงคโปร์ ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น.         เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ  โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ708
11.00 น.         เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

ทัวร์ยุโรป ทัวร์ยุโรป

เงื่อนไขทัวร์ยุโรป

** กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในโปรแกรมทัวร์ยุโรป **
ทัวร์ยุโรป

ทัวร์ยุโรป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทัวร์ยุโรป