ญี่ปุ่นมีดีอะไร ทำไมต้องไปเที่ยว? 2018-01-19 17:33:20 | อ่าน 1,441 ครั้ง
ญี่ปุ่นมีดีอะไร ทำไมต้องไปเที่ยว?
ประเทศญี่ปุ่น (Japan)เป็นประเทศที่รายล้อมไปด้วยทะเล มีเนื้อที่กว่า 377,930 ตารางกิโลเมตร และมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 3,000 เกาะ เป็นประเทศที่ได้เจอกับแสงสว่างของพระอาทิตย์ก่อนประเทศอื่นจะได้ถูกขนานนามว่าเป็น "ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย" นั่นเอง ด้วยประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างมา จึงมีนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ดูทันสมัยไปหมด หากใครได้ไปเยือน อย่างแรกที่เราจะได้เจอนวัตกรรมนี้ก็คือ ห้องน้ำที่บางคนถึงกับงงเลยทีเดียว บางเลยว่าห้องน้ำของเขาทันสมัยมาก ส่วนอย่างอื่นก็มีครบทางด้านคมนาคม รถไฟความเร็วสูง เทคโนลียีเครื่องจักร หุ่นยนต์ เป็นต้น ทำให้มีคนไทยไม่น้อยที่เดินทางไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่นกันมากเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้านะ มีให้ได้เที่ยวกันครบรส ถึงพริกถึงขิงเช่นกัน ส่วนจะมีที่ไหนบ้างเดียวเราลองมาดูกันเลย
ที่แรกที่เรานึกถึง และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ก็คือ ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain) นั่นเอง หากใครได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็ต้องไปเช็คอินถ่ายรูปกับภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นภูเขาที่คนทั่วโลกต่างรู้จักและยกย่องว่าสวยสุดในญี่ปุ่นเลย ไม่เพียงเท่านี้ ภูเขาไฟฟูจิยังเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม อีกด้วย ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ภายใต้ชื่อ "ฟูจิซัง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของความบันดาลใจทางศิลปะ"ส่วนฤดูในการชมฟูจิ แต่งละฤดูการให้บรรยากาศแตกต่างกันออกไป แต่ภูเขาไฟฟูจิจะสวยที่สุดในหน้าหนาว เพราะมีหิมะปกคลุมปากปล่องภูเขาไฟนั่นเอง ทำให้มีนักท่องเที่ยวที่อยากชมภูเขาไฟฟูจิ มาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย
ภูเขาไฟฟูจิ ฤดูร้อน
ภูเขาไฟฟูจิ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ภูเขาไฟฟูจิ ฤดูหนาว
ภูเขาไฟฟูจิ ฤดูใบไม้ผลิ
อย่างที่สอง ที่ทำให้อยากไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนั่นก็คือ การที่เราได้ออกไปสัมผัสกับวัฒนธรรม วิธีชีวิต ความเป็นอยู่ และสิ่งปลูกสร้าง ที่เจริญตา เจริญใจ ซึ่งก็มีสร้างปลูกสร้าง ปราสาท วัดอาราม อาทิ
ปราสาททอง หรือ ปราสาทคินคาคุจิ (Kinkakuji) ที่อยู่ในการ์ตูน เณรน้อยเจ้าปัญญา อิวคิวซัง นั่นเอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นปราสาทท่านโชกุนในการ์ตูน นั่นเองซึ่งแต่ละฤดูก็จะสวยแตกต่างกันไป แต่บอกเลยว่าและงดงามมากเลยทีเดียว
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนและดอกซากุระที่สวยและดังที่หนึ่งในเมืองโอซาก้า ซึ่งมีต้นซากุระกว่า 600 ต้นปลูกไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว รวมถึงการการจัดงานเทศกาลชมซากุระในกลางคืนให้เราได้ความโรแมนติกกันไปอีกแบบ ซึ่งสร้างความประทับแก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก
ปราสาทอีกาดำ หรือ ปราสาทมะสึโมะโตะ (Matsumoto Castle) อีกปราสาทที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากเช่นกัน ด้วยทัศน์ภาพที่นี้สวยมาก ทำให้นักถ่ายรูปทั้งหลายต้องไปเยือนกันให้จงได้และจุดยอดฮิตของปราสาทคือการได้ถ่ายรูปกับสะพานสีแดง ที่มีฉากหลังเป็นปราสาทนั่นเองซึ่งในฤดูใบไม้ผลิการมีดอกซากุระสีชมพูอ่อน ๆ ออกดอกบานเคยต้อนรับผู้มาเยือนให้รู้สึกโรแมนติกอย่างมาก
อย่างที่สาม การท่องเที่ยวแบบธรรมชาติของประเทศนี้ก็ดีไม่ใช้น้อยนะ ซึ่งก็แยกกันไปตามฤดูกาล ซึ่งให้อารมณ์ ความรู้สึก ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะพีคแค่ไหนก็ต้องลองมาสัมผัสกันดู เริ่มต้นด้วย
ฤดูหนาว จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูนี้จะเต็มไปด้วยหิมะ ทุกอย่างจะถูกปกคลุมไปด้วยสีขาว ใครชอบหิมะก็มาเที่ยวฤดูนี้ได้เลย กิจกรรมที่มีในฤดูนี้อย่างเช่น การเล่นสกี การแกะสลักหิมะเทศกาลสร้างบ้านหิมะคามาคุระ ตุ๊กตาหิมะ เป็นต้น
ฤดูใบไม้ผลิ ชมดอกซากุระ เริ่มต้นในเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม หากใครไม่ชอบอากาศหนาว ๆ ก็ไปเที่ยวกันในฤดูนี้ได้เลย ซึ่งในฤดูนี้จะมีอากาศเย็น ๆ น่าเดินเที่ยวมาก คนไทยส่วนใหญ่จะชอบอากาศแบบนี้ฤดูนี้จะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่แข่งกันบานเต็มไปหมด ผู้คนต่างออกมาทานอาหารกันเป็นครอบครัว เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติกมาก ซึ่งคนญี่ปุ่นทั้งชาย หญิง จะมีการแต่งกายด้วยชุดยูกาตะ การเต็มไปหมดเข้ากับบรรยากาศมากเลยทีเดียว นึกภาพแล้วชวนฟินมั้ยล่ะ
.
ฤดูใบไม้ร่วง ชมใบไม้เปลี่ยนสี เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤดูที่ถัดมาจากฤดูร้าน ทำให้ไม่ร้อน ไม่หนาว อุณภูมิกำลังดีเลยทีเดียว ซึ่งเป็นฤดูที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ฤดูนี้เต็มไปด้วยสีสรรของใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีแดง ของต้นเมเบิล หรือสีเหลืองของต้นแปะก๊วย ต่างก็สวยงามอร่ามตา น่าไปดูมากเลยทีเดียว บอกเลยสวยมากไม่ผิดหวังแน่นอน
.
อย่างที่สี่ ดูสถานที่เที่ยวเสร็จแล้ว เรามาดูที่ช้อปปิ้งกันบ้าง อันนี้สาว ๆ ชอบแน่ มาญี่ปุ่นทั้งทีต้องมีของติดไม้ติดมือกลับกันไปทุกคน สินค้าของแบรนด์เนมส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าไทย รู้แล้วรีบไปดูกันเลย ซึ่งมีอาทิ ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ย่านชินจูกุ (Shinjuku) ฮาราจูกุ (Harajuku)ชิบูย่าหรือชิบูยะ (Shibuya)และกินซ่า (Ginza) เป็นต้น
ย่านชินไซบาชิ
อย่างที่ห้า เดินเที่ยว เดินช้อปปิ้งกันเพลิน ๆ แล้วก็ถึงเวลาท้องร้อง ต้องการอาหาร ซึ่งที่ประเทศนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ของกินมากมายน่ากิน ของส่วนใหญ่จะสด ๆ ทั้งนั้น เพราะประเทศญี่ปุ่นคุมเข้มในเรื่องอาหารมากทำให้มีแต่อาหารดีๆ น่าตาน่ารับประทาน บอกเลยเดินกิน เดินชิม กันอิ่มจนพุงกางเลยทีเดียว
แถมคนญี่ปุ่นยังอัธยาศัยดีมากเลยนะ เที่ยวเพลิน กินเพลิน ชีวิตดี๊ดี รีบเก็บกระเป๋าวางแพลนออกไปเที่ยวญี่ปุ่นกันดีกว่า ใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เซ็นเตอรทัวร์ยินดีให้บริการจ้า เที่ยวญี่ปุ่นมีมากกว่าที่คิดจริง ๆ ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
|