10 สถานที่แช่ออนเซ็นสุดฮอตสุดฮิต 2017-06-07 11:43:58 | อ่าน 9,865 ครั้ง
10 สถานที่แช่ออนเซ็นสุดฮอตสุดฮิต
ไปประเทศญี่ปุ่นทั้งที สิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือ การแช่ออนเซ็นเพื่อสุขภาพ บำบัดความเหมื่อยล้า ตามไสต์ญี่ปุ่น ซึ่งสถานที่แช่ออนเซ็นมีอยู่หลายที่แต่เรามี 10 สถานที่แช่ออนเซ็นสุดฮอตสุดฮิต ที่ให้คุณได้ไปลองแช่มาฝากกันจ้า
1. Kawaguchiko
ที่มาภาพ: mytokyoguide.wordpress.com
ที่นี่นับเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด เนื่องจากสภาพอากาศดีๆ ได้เห็นฟูจิแบบเป้งๆ สวยทุกฤดู ไม่มีซ้ำกัน และยังมีออนเซ็นที่เป็น Open Air ซึ่งสามารถชมฟูจิไป แช่ไป เพลินมั๊ยหล่ะคะ เป็นใครก็อยากโดนป่ะ 555
เสร็จละแถบนั้นของดีคือองุ่นคร้า เป็นองุ่นที่อร่อยสุดในญี่ปุ่น และช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ยังมีดอกไม้ให้ชมอีกด้วย นับว่าที่นี่เป็นจุดที่เลิศมาก เหมาะสำหรับคู่รักหรือกลุ่มเพื่อนๆ ไปเที่ยวและถ่ายรูปเป็นอย่างมาก
ที่ตั้ง : จังหวัดยามานาชิ
การเดินทาง : ด้วยรถบัสสายเคโอ จากสถานีชินจุกุที่ทางออก West ที่สถานีโตเกียว เจอาร์ บัส หรือรถไฟสายเจอาร์สายชูโอที่ไปถึงคาวากุชิโคะ โดยขึ้นได้ทั้งที่สถานีโตเกียว และสถานีชินจุกุ
ที่พักแนะนำ : ฟูจิ เลค โฮเทล ชอบที่นี่เลยค่ะ ไม่ได้ไกลมาก เดินทางพอไหว ส่วนห้องก็มีหลากหลายแบบดี เลยรู้สึกว่าตัวเองโอมากๆ สำหรับที่นี่ เห็นฟูจิได้ตัวเป้งๆ เลยค่ะ ราคาพอไหว แต่จองยากมากต้องล่วงหน้าสักนิด
2. Hakone
ที่มาภาพ: youinjapan.net
ที่นี่เดินทางเพียงชั่วโมงกว่าๆ จากโตเกียว ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ รถไฟ รสบัสก็สะดวก มีน้ำแร่ชั้นดี แถมยังมีจุดท่องเที่ยวอีกเพียบ เลยทำให้เป็นที่นิยมกันมาก ไม่ว่าจะไปนั่งเรือไวกิ้ง หรือขึ้นโรฟเวย์ชมวิว เวลาที่น่าไปที่สุดน่าจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะจะสวยมากๆ เรียกได้ว่าที่นี่เลยเป็นแหล่งที่นิยมเพราะมีเรียวกัง รีสอร์ท โรงแรม เยอะด้วย
ที่ตั้ง : จังหวัดคานากาว่า
การเดินทาง : การเดินทางไปได้หลายสาย เพราะที่นั่นเดินทางเพียง 20 กว่านาที จากสถานีโอดาวะระ ด้วยรถไฟสายเจอาร์ และสายโอดะคิว
ที่พักแนะนำ : Hakone Yumoto Onsen Hotel Senkei ที่นี่ก็เดินทางสะดวกจากฮาโกเน่นะไม่ได้ซับซ้อนไรมาก แต่พูดเลยว่าห้องพักที่นี่ ก็นับว่าไม่แพงถ้าเทียบกับสภาพห้องพักและการได้แช่ออนเซ็นในฮาโกเน่แล้วละก็ มันยอดมาก
3. Kinugawa Onsen
ที่มาภาพ: www.jalan.net
จังหวัดนี้เป็นแหล่งออนเซ็นชั้นดีที่มีออนเซ็นประเภทฮิโตอยู่ด้วย ที่ใกล้ๆ กันนั้นเป็นยุนิชิกาว่าออนเซ็น แต่เห็นว่าที่นั่นไกลเกินเอื้อม แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวไทยไปที่นั่นเยอะเหมือนกัน และที่ขาดไม่ได้คือที่นี่อยู่ใกล้ๆ กลับนิกโก้ เลยทำให้ใครที่ไป สามารถจะเที่ยวชมศาลเจ้าหรือน้ำตก ธรรมชาติอีกเพียบ มีหมู่บ้านเอโดมูระ ให้เราย้อนยุคไปในสมัยเอโดะ และที่สำคัญในช่วงเดือน 4 ก็นิยมไปเก็บสตรอเบอรี่กันด้วย เพราะที่นี่จัดว่ามีสตรอเบอรรี่ที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น
ที่ตั้ง : จังหวัดโทชิคิ
การเดินทาง : การเดินทางไปได้หลายสาย มีทั้งรถไฟธรรมดาด้วยรถสายโทบุ และรถไฟความเร็วสูงสเปเชียล โดยสามารถขึ้นจากอาสะกุสะ ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมงในการเดินทาง หรือบางท่านมีตั๋วเจอาร์แล้วอยากให้ประหยัดละก็ จัดเจอาร์ โทบุนิกโก้ ไปลงที่สถานีรถไฟ JR Nikko จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย TOBUNIKKO - SHIMOIMAICHI เพื่อจะไปลงที่สถานี Kinukawa Onsen
ที่พักแนะนำ : ที่ คินุกาวา ปาร์ค โฮเทล ที่นี่เดินทางสะดวกมาก และห้องพักไม่แพงเลยค่ะ คนเลยนิยมไปกันอ่ะ พูดแล้วคิดถึง ชอบคินูกาว่ามากๆ เลย
4. Kusatsu Onsen
ที่มาภาพ:www.deepjapan.org
ที่นี่นับเป็นออนเซ็นเลื่องชื่อของญี่ปุ่นมากๆ เนื่องด้วยน้ำแร่เค้าดีจริงๆ อยู่ในจังหวัดกุมมะ ซึ่งคนญี่ปุ่นให้เครดิตว่าเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ แค่คนไทยยังไม่รู้จักเท่านั้นเอง แต่พูดเลย ที่นี่นับเป็นจุดที่น่าเที่ยวมาก เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักที่เดินทางไม่ไกลจากโตเกียวมาก ที่จังหวัดนี้มีเชอรี่ที่อร่อยอีกด้วย ทัวร์เก็บผลไม้ของกุมมะก็เลิศนะคะ แถวๆ นี้มีรีสอร์ท เรียวกังมากมายพร้อมสิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างคือกาแฟ ที่นี่ขึ้นชื่อค่ะ
ที่ตั้ง : จังหวัดกุมมะ
การเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟ JR Limited express Kusatsu โดยเดินทางจากสถานี Ueno และไปลงที่Naganohara-Kusatsuguchi ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือบางท่านมีตั๋วเจอาร์ พลัส ก็ถ้าอยากนั่งชินกันเซ็นเล่นดูก็ไปนั่งชินกันเซ็นสายทานิกาว่าและลงที่ Takasaki จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟ JR และลงที่สถานี Naganohara-Kusatsuguchi ซึ่งจะต้องทำการต่อรถจึงคิดว่าวิธีแรกเวิร์คกว่านะคะ
ที่พักแนะนำ : อิจิดะยะ เรียวกังที่นี่ถือเป็นเรียวกังที่ราคาพอเอื้อมได้เดินไม่ไกลจากบัสสต๊อปมาก นักเพียงเดิน 5 นาที จึงคิดว่าเหมาะกับคนไทยอย่างเราๆ มากที่สุดค่ะ แล้วก็สภาพรอบๆ โรงแรมสวยงามใช้ได้ด้วย
5. Yufuin Onsen
ที่มาภาพ:www.welcomekyushu.com
ที่นี่ เป็นเป็นเมืองเล็กๆ น่ารักๆ ที่นี่สามารถเดินไปถึงภูเขา Yufudake ในจังหวัด Oita ที่นั่นได้รับการโหวตให้เป็นสุดยอดออนเซ็นแห่งเกาะคิวชูเลยนะ ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะชอบที่นี่มากเพราะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยเว่อร์ แต่ประกอบไปด้วยจุดท่องเที่ยวที่มิทั้งพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ร้านอาหารที่ดูทันสมัย ผู้หญิงเลยจะชอบที่นี่ ใครที่อยากบอกรักสาวไปที่นี่สิคะ อาจมีเคลิ้มได้นะ อิอิ
ที่ตั้ง : จังหวัดโออิตะ
การเดินทาง : จากสถานี Oita ถึงสถานี Yufuin เดินทางด้วยรถไฟสาย Limited Express Yufu โดยประมาณ 50 นาที วันนึงจะมีรถด่วนแบบประมาณ 4 รอบ ต้องเช็คเวลาก่อนการเดินทางนะจ๊ะ ไม่งั้นต้องจัดรถหวานเย็นซึ่งจะมีความเร็วหลายระดับ (หรือว่าช้าหว่า 55 ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงเศษๆ หรือใครที่ต้องการขึ้นรถไฟ ขบวนพิเศษ Yufuin No Mori สามารถใช้ JR Pass ก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งแต่ต้องจองตั๋วล่วงหน้า
ที่พักแนะนำ : ที่ Yufunoshou เป็นเรียวกังที่ค่อนข้างไกลจากสถานีเพราะที่นี่มีแต่ธรรมชาติและอาหารอร่อยๆ จึงต้องเดินทางไกลนิดหน่อย เค้ามีรถเซิทเทรินบัสบริการจากสถานีนะจ๊ะ หุหุ ที่นี่อาหารเย็นอร่อยมากค่ะ
6. Noboribetsu Onsen
ที่มาภาพ:selected-ryokan.com
ถ้าไปเยือนฮอกไกโดก็แน่นอนเลย ที่โนโบริเบะซึ นับเป็นจุดที่เป็นน้ำแร่ออนเซ็นที่ดีที่สุดในแถบฮอกไกโดเลยนะ ใครไปจะได้กลิ่นกำมะถัน และไฮโดเจนซัลไฟด์ ลอยๆ มาเป็นระยะๆ ที่นี่มีหุบเขาหลายจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และจัดเป็นเมืองเล็กๆ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย น้ำแร่ที่นี่จะมีสรรพคุณเด่นเรื่องผิวพรรณของคนที่ได้แช่ และผลพลอยได้ก็จะผ่อนคลายความเหนื่อยล้าของร่างกาย เรียวกว่าถ้าไปซัปโปโรแล้วมีเวลาก็ไปเยือนโนโบะริเบะซึ ก็ไม่เลวนะคุณ
ที่ตั้ง : จังหวัดฮอกไกโด
การเดินทาง : ใช้รถไฟสาย JR Sapporo ขบวน Limited Express Hokuto หรือ Limited Express Super Hokuto ไปลงที่สถานี JR Noboribetsu โดยใช้เวลาประมาณ 70 นาที ถ้านั่งรถธรรมดาจะนานมากคร้า หลับยาวแน่
ที่พักแนะนำ : โนโบริเบ็ทสึ มันเซคะคุ ที่นี่เก๋กู๊ดด้วยพื้นที่อยู่แล้ว รอบนอกก็งาม ในเรียวกังก็สวย เฮ่อ ไปฮอกไกโดก็ทนนั่งรถไฟหน่อยนะ
7. Beppu Onsen
ที่มาภาพ:www.tripadvisor.com
เบปปุนับเป็นจุดที่มีออนเซ็นขึ้นชื่อว่าออนเซ็นนรก 555 ที่นี่ตั้งอยู่ในเกาะคิวชู และอยู่ในจังหวัดโออิตะ ออนเซ็นที่นี่มีหลายสีมาก บอกเลยที่นี่โอโมชิโร่ย มากๆ (น่าสนใจ) เบปปุมีทั้งบ่อออนเซ็นสีแดงเหมือนเลือด ออนเซ็นสีฟ้ารักษาโรคผิวหนัง จึงจัดว่าออนเซ็นที่นี่มีสีที่แปลก และมีสรรพคุณที่ต่างกัน และจัดว่าเป็นจุดที่มีแหล่งออนเซ็นใหญ่มากในญี่ปุ่นที่นี่เราจะได้ยินคน เขียนภาษาทัวร์กันบ่อยว่า ทัวร์ขุมนรก (Beppu Hell Tour) อะไรก็แล้วแต่นะ คือเค้ามีบ่อให้ชม 8 บ่อค่ะ แต่ละบ่อก็ชื่อแบบว่าเท่ห์มากไม่ว่าจะเป็นบ่อทะเลเดือด บ่อเลือดนรก บ่อนรกสีขาว บ่อเทอร์นาโดนรก บ่อโคลนเดือด บางบ่อสามารถต้มไข่จากบ่อรับประทานได้สะงั้นมันยอดมากใช่มั๊ยหล่ะ!!
ที่ตั้ง : จังหวัดโออิตะ
การเดินทาง : สามารถเดินทางด้วยรถไฟสาย JR Nippo เพื่อไปลงที่สถานี Beppu ที่นั่นจะมีออนเซ็นเรียวกังใกล้ๆ กับสถานีมากมายและมีจุดท่องเที่ยวชมบ่อออนเซ็นอีกด้วย ถ้า ใครเดินทางมาจากเมืองไทยลงที่สนามบินฟุกุโอกะ จะไกลนะคะ แต่ว่าก็ทำได้ เพราะเรามีเครื่องจากไทยไปฟุกุโอกะ คือลงที่สนามบินจากนั้นเลือกเอาค่ะว่าจะต่อรถไฟ หรือบัส ถ้าเป็นรถไฟนะคะ ก็จัด JR Limited Express Sonic ซึ่งเราต้องนั่งยาวไปเลยค่ะ 160 กม. ก็ประมาณ 2 ชม. นะคะ
ที่พักแนะนำ : โอ้ย! ที่นี่งามอ่ะที่ โฮเทล นิว มาซุมิ ใช้เวลาเดินก็สิบนาทีแต่คุ้มนะ ขำๆ ไป และมันคุ้มนะจะบอกเลยอาหารอร่อย ทะเลสวยยยย หาแบบนี้ยากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่คนจะชอบที่นี่เพราะถูกและสวยมากๆ นี่เอง
8. Kurokawa Onsen
ที่มาภาพ:alia0202.pixnet.net
ยังๆ ไม่ไปจากคิวชูนะ ที่นี่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะคิวชู ครั้งนี้เราจะพาไปหาคุมามง เอ้ยไม่ใช่ ไปคุมาโมโต้กัน 555 แต่อยู่ทางตอนเหนือของเขาอะโสะซึ่งสามารถเดินทางจากที่นั่นโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 15 นาที ซึ่งนับว่าเป็นจุดที่มีชื่อเสียงจุดนึงของเมืองออนเซ็นขึ้นชื่อเลยนะ คนญี่ปุ่นจะนิยมมาที่นี่กันมาก เนื่องจากที่นี่ให้บรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่ในเมือง เพราะจะไม่มีตึกอาคารอะไรมากลักษณะเป็นธรรมชาติ และมีรีสอร์ทเยอะจึงทำให้ที่นี่เหมาะกับวันพักผ่อนของหลายๆ คนที่ชอบแนวธรรมชาติ ออนเซ็นของที่นั่นจะมีทั้งหมดสามชนิดที่ขึ้นชื่อแบบที่แนะนำคือการอาบน้ำแบบ “Nyuyoku tegata” ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการบำบัดคนที่มีปัญหาหรืออาการเจ็บปวดทางเส้นประสาทต่างๆ
ที่ตั้ง : จังหวัดคุมาโมโตะ
การเดินทาง : ที่นี่ไม่มีรถไฟเข้าถึง แต่หากเดินทางจากสถานีรถไฟ JR Kumamoto โดยขึ้นรถบัสต่อจากที่นั่นด้วยสาย Kyushu-Odan ที่เดินทางไปยัง Kurokawa Onsen (ประมาณ 150 นาที) จากฟุกุโอกะ จะมีรถบัสเดินทางมาถึงที่นี่โดยใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง
ที่พักแนะนำ : ยามาบิโกะ เรียวกัง เพราะติดใจออนเซ็นที่นี่นะ มันงามมมมมเว่อร์ ตอนแรกเห็นก็เฉยๆ พอดูจุดโอเพ่นแอร์นี่พูดเลย สุดยอด และไม่อยากกลับโตเกียว
9. Gero Onsen
ที่มาภาพ:blog.gaijinpot.com
เกโระออนเซ็น มีใครรู้จักบ้างน้อ ห่างจากทาคายาม่า โดยถ้านั่งรถด่วนก็ครึ่งชั่วโมงอ่า ที่เกโระนี่เค้ามีเป็นจุดที่มีชื่อเสียงเรื่องออนเซ็นหนึ่งในสามของญี่ปุ่น นะ ทั้งนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและต่างประเทศต่างก็นิยมไปกันอยู่หรอก เพราะออนเซ็นที่นี่มันเทพค่ะ แต่ที่นักท่องเที่ยวไทยยังไปน้อยเพราะอาจจะไม่ค่อยรู้จักจังหวัดกิฟุ ฉะนั้นเรามาทำความรู้จักที่นี่กันให้มากขึ้นเลยนะ น้ำแร่ที่นี่มีสภาพเป็นด่าง (alkaline) เยอะหน่อยค่ะ การที่เราแช่ออนเซ็นนี้จะทำให้ผิวพรรณวิ๊งๆ ที่นี่เป็นหมู่บ้าน Gero Onsen Gasshomura ลักษณะของหลังคาจะเป็นแบบทรงสูง และที่นี่งามทุกฤดูขอบอก และมีแต่สิ่งแวดล้อมงามๆ คือเรียกได้ว่าเรามาที่นี่ก็เหมือนหลุดไปอีกโลกอ่ะ การเดินทางก็สุดแสนจะง่ายค่ะ คิดว่าคนที่ไม่ชอบเดินทางลำบากก็ไปถูก
ที่ตั้ง : จังหวัดกิฟุ
การ เดินทาง : สามารถเดินทางได้จากทาคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มาลงที่สถานี Gero ได้เลยค่ะ ที่สถานีบางโรงแรมที่อยู่ไกลจะมีคนมารับ ลงมาบางทีจะเห็นหลากหลายโรงแรมถือป้าย รอรับเรา แบ่งการเดินทางออกอีกสองรูทนะ จากการนั่งชินกันเซ็น และจากนาโกย่าจาก สถานี Tokyo หรือ Shin Osaka ขึ้นรถไฟชินกันเซ็นเพื่อไปลงที่สถานีนาโกย่า จากที่นั่นนั่งรถสาย Takayama Main Line เพื่อไปลงที่สถานี Gero หรือจากสถานี Nagoya นั่งรถไฟสาย Takayama main ประมาณ 90 นาที ลงที่สถานี Gero
ที่พักแนะนำ : จัด ที่นี่ไปค่ะ คิดว่าเลือกแนะนำที่นี่เพราะ Suimeikan เพราะออนเซ็นเค้างาม และสำหรับที่นี่แล้วที่ไหนคงสวยหมดแต่อยากให้ที่เดินทางสะดวกๆ กับเพื่อนๆ เท่านั้นเอง
10. Okuhida Onsen
ที่มาภาพ:alljapantours.com
นี่เขียนถึงอันดับสุดท้าย เพิ่งมารู้ตัวว่าเอ้ย!นี่เราชอบออนเซ็นไปรึเปล่า 555 สายไปละ นี่เรียกว่าสองปีนี้ถลำลึกลงไปในบ่อแล้ว เอาไม่อยู่ เข้าเรื่องละนะ Okuhidaonsen Town เป็นหนึ่งใน 5 จุดที่มีออนเซ็นจากน้ำพุร้อนที่ส่งตรงมาจากทางใต้เทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือ น้ำแร่ที่ได้รับจากเส้นทางโอคุฮิดะออนเซ็นมีหลายหมู่บ้านเลยที่ได้รับ เลยทำให้ที่นี่มีจุดท่องเที่ยวที่กระจายกันไปเป็นโซนๆ ใครชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขา ขึ้นกระเช้าโรฟเวย์ที่นั่นมีหมด เรียกว่าแจ่ม เก๋กู๊ดดดคร้า
ที่ตั้ง : จังหวัดกิฟุ
การเดินทาง : เดินทางจากสถานี JR Takayama ด้วยรถบัสประมาณ 60 นาที และเดินทางด้วยรถบัสที่สถานี Matsumoto โดยใช้เวลาประมาณ 85 นาที
ที่พักแนะนำ : ที่นี่นับเป็นจุดที่เดินทางสะดวก ราคาไม่สูงมากนัก จึงคิดว่าเหมาะกับคนไทย เพราะที่ไหนๆ ในโอคุฮิดะ พูดเลยว่าเด็ดนะ
ขอบคุณที่มาจาก www.marumura.com
|