สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น
วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ |
วันที่ 2 | สนามบินชิโตเซะ - โนโบริเบทสึ - หุบเขานรกจิโกกุดานิ - นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาไฟอุสุซาน - จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ |
วันที่ 3 | ลานกิจกรรมหิมะ - โอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ถนนซาไกมาชิ - ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ |
วันที่ 4 | อุทยานโมอาย - พระอะตะมะ ไดบุตสึ - ตลาดปลาซัปโปโรโจไง - ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด - หอนาฬิกาซัปโปโร สวนโอโดริ |
วันที่ 5 | สนามบินชิโตเสะ - สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย |
วันเดินทาง |
ราคาทัวร์/ท่าน พักห้องละ 2-3 ท่าน |
ราคาทัวร์เด็ก/ท่าน (อายุไม่เกิน 12 ปี) |
ราคาทัวร์ไม่รวม ตั๋วเครื่องบิน |
ราคา ห้องพักเดี่ยว |
12 – 16 มกราคม 2566 | 47,990 | 44,990 | 22,990 | 10,000 |
02 – 06 มีนาคม 2566 | 49,990 | 46,990 | 24,990 | 10,000 |
อัตราค่าบริการสำหรับ เด็กอายุไม่เกิน 2 ปี ณ วันเดินทางกลับ (Infant) ท่านละ 15,000 บาท |
โปรแกรมการเดินทางทัวร์ญี่ปุ่น
Day1 สนามบินสุวรรณภูมิ
20.30 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
23.55 ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG670 พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 25 นาที)
Day2 สนามบินชิโตเซะ - โนโบริเบทสึ - หุบเขานรกจิโกกุดานิ - นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาไฟอุสุซาน - จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ
08.20 เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบของสนามบิน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ โนโบริเบทสึ เมืองที่เป็นเมืองตากอากาศชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงด้านออนเซ็น เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับไปพักค้างคืนและเข้าออนเซ็นเป็นอย่างยิ่ง นำท่านชม จิโกคุดานิ หรือ หุบเขานรก ภายในบริเวณนี้ประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนและบ่อโคลนเดือดเกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ทำให้มีลักษณะคล้ายกระทะทองแดง ซึ่งจะมีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา จากใต้พิภพ ทำให้ผู้คนขนานนามที่แห่งนี้ว่า หุบเขานรก และที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดบ่อออนเซนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและผิวพรรณแห่งเมืองโนโบริเบทสึ ที่มีชื่อสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโดอีกด้วย
จากนั้นนำทุกท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ภูเขาไฟอุสุซาน เป็นภูเขาไฟที่ทำให้เกิดทะเลสาบโทยะขึ้นมา จากหลักฐานพบว่า ภูเขาไฟลูกนี้มีการปะทุขึ้นมาทุกๆ 20-50 ปี ดังนั้นจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภุมิทัศน์ของพื้นที่แถบนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการปะทุไปเมื่อปี พ.ศ. 2543 บนยอดเขาจะเห็นปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมีควันสีขาวลอยขึ้นมาตลอดเวลา (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) (รวมค่าขึ้นกระเช้าและค่าเข้าสวนหมีแล้ว)
จากนั้นนำท่านเข้าชม สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส และมีหมีโตเต็มวัยที่ไม่ดุร้ายโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว หากใครต้องการ
ใกล้ชิดกว่านี้ก็สามารถเข้าไปยังห้องสังเกตการณ์พิเศษ กรงมนุษย์ ซึ่งจะมองเห็นหมีสีน้ำตาลเดินผ่านไปมา และได้ยินเสียงและกลิ่นของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็กๆ นอกจากนี้ยังยังขายขนมปัง และแอปเปิ้ล ให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารหมีอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ เป็นจุดชมวิวทะเลสาบโทยะ แบบพาโนราม่า และยังสามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่รายรอบ ทะเลสาบโทยะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก The Lake View, Toya ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day3 ลานกิจกรรมหิมะ - โอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ถนนซาไกมาชิ - ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ ลานกิจกรรมหิมะ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับ กิจกรรมหิมะให้เล่น เช่น สโนว์โมบิล และสโนสเลด หรือจะเลือกเล่นผาดโผนในสไตล์ท่านเอง (ไม่รวมค่าอุปกรณ์ และค่าเครื่องเล่น ประมาณ 5,000-15,000 เยน) ** ทั้งนี้การเล่นกิจกรรมหิมะต่างๆนั้น ขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ และปริมาณความหนาของหิมะ ณ เวลานั้น*
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อ เลือกชมสินค้ามากมายกับ ถนนซาไกมาชิ โดยด้านขวามือก็ต้องสะดุดตา สะดุดใจ ไปกับความน่ารักของเจ้าแมวน้อยคิตตี้ ที่ท้าทายรอให้ทุกๆท่านเข้าไปเยี่ยมชม ผ่านมาแล้วจะผ่านเลยไปได้อย่างไรกัน แวะชมกันสักหน่อยสิค่ะ เมื่อเข้าไปในร้านทุกท่านสามารถเลือกแก้วเป็นลวดลายตามใจชอบแต่ละท่านได้เลยนะจ๊ะ ซึ่งข้างหลังแก้วจะมีการสกรีนคำว่า otaru ติดไว้ด้วยนะคะ ซึ่งแก้วก็จะมีมากมายหลากหลายแบบให้เลือก ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป เมื่อซื้อแก้วพร้อมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วสามารถเติมเครื่องดื่มฟรีได้อีกรอบด้วยนะคะ เลือกเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว เชิญเลือกที่นั่งตามอัธยาศัยที่บริเวณชั้นสองได้เลยจ้า หรือถ้าใครไม่อยากนั่งบริเวณชั้นหนึ่งจะเป็นโซนขายของที่ระลึก หรือจะสนุกสนานไปกับการหมุนตู้กาชาปองเสี่ยงทายหาของฝากไปฝากคนที่คุณรักก็ตามแต่สะดวกเลยค่ะ
ออกจากร้านคาเฟ่คิตตี้ไม่ทันไร ก็จะเจอร้านถัดมาที่เรียกกันว่า มาฮอกไกโด ทั้งทีต้องไม่พลาด LETAO กันนะจ๊ะ เป็นคาเฟ่ให้นั่งทานและสามารถสั่งกลับได้ ซึ่งบางวันอาจจะต้องรอคิวกันสักนิดนึง สิ่งต้องห้ามก็คือ ห้ามพลาดที่จะลิ้มรส และห้ามพลาดที่จะหิ้วกลับมาเป็นของฝากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งโดยเด็ดขาด LETAO ที่ควรค่าแก่การทานคือชีสเค้กนั่นเอง สัมผัสลิ้นที่นุ่มละมุน กลิ่นหอมหวาน ให้รสชาติหวานพอดี ลิ้มรสพร้อมกับจิบชาและชมบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ไม่มีอะไรจะฟินไปยิ่งกว่านี้แล้วววว
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่วามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น อิสระให้ท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่วามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น และนำท่านช้อปปิ้งที่ ทานุกิโคจิ เป็นแหล่งช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้า Susukin มีร้าน BIG CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์,ร้าน100เยน, ร้านUNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น,ร้าน MATSUMOTO KIYOSHI ขายยาและเครื่องสำอาง
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาช้อปปิ้ง
ที่พัก Smile Hotel Premium, Sapporo ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day4 อุทยานโมอาย - พระอะตะมะ ไดบุตสึ - ตลาดปลาซัปโปโรโจไง - ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด - หอนาฬิกาซัปโปโร
สวนโอโดริ
สวนโอโดริ
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม อุทยานโมอาย (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ที่ออกแบบโดย Tadao anda สถาปนิกชื่อดังของโลก ก่อสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1982 ไอเดียคล้ายวัฒนธรรมจากโมอายและอียิปต์ ออกแบบรูปร่างตั้งให้อยู่ในภูเขาของดอกลาเวนเดอร์ พระพุทธรูปเป็นแนวคิดโครงสร้างจากการเรียงลำดับของจิตวิญญาณ องค์พระมีชื่อว่า Atama Daibutsu เปิดให้เข้าชมอย่างเป็น ทางการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา อุทยานโมอาย มีพื้นที่ประมาณ 540,000 ตารางเมตร มี 40,000 กลุ่มของที่บรรจุอัฐิและรองรับได้ 70,000 กลุ่ม (ชาวญี่ปุ่นไม่มีการฝังศพ ใช้การเผา และจะซื้อที่ดินใว้เก็บ"อัฐิ"เก็บแบบทั้งตระกูลรวมไว้) โมอายแห่งญี่ปุ่น เป็นชื่อที่ผู้คนเรียกขาน เป็นหนึ่งในสุสานที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด
จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดซัปโปโรโจไง ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง บรรยากาศตามร้านต่างๆ ก็จะมีความคล้ายคลึงกับตลาดปลาทางโตเกียวหรือโอซาก้า
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ ตลาดปลาซัปโปโรโจไง ให้ท่านได้เลือกทานอาหารได้ตามใจชอบในแบบของท่านไม่ว่าจะเป็น ปูทาราบะ ปูซูไซ หรือจะเลือกทานเป็นซูชิ ซาซิมิ ข้าวหน้าปลาดิบ รับรองว่าสด สะอาด ถูกใจทุกท่านที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นแน่นอน
ของขึ้นชื่อเมื่อมาเยือนตลาดปลาแห่งนี้และพลาดไม่ได้เลย คือ ปูยักษ์ ซึ่งปูยักษ์ที่นี่จะใหญ่มาก หากได้มาเยือนฮอกไกโดแล้วแนะนำว่าไม่ควรพลาด มาต่อสถานที่สุดฮิตอีกหนึ่งจุดคือ ร้านขายของสดแล้วก็ยังมีร้านขายอาหารแห้งแปรรูป ของกึ่งสำเร็จรูป เป็นการแปรรูปของสดจากทะเลหรือเป็นนำมาทำเป็นของอบแห้งเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร และของนิยมซื้อฝากกันยอดฮิตคือ “มิโสะปู” สามารถนำไปทำซุปมิโสะได้เลยแถมอร่อยมากๆด้วย
แค่นี้ถือว่ายังไม่พอมาต่อกันอีกหนึ่งร้านที่ถือว่ารวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน อาทิ ของทะเลสด ของแห้ง ของสำเร็จรูป รวมไปถึงร้านอาหาร (สามารถดูราคาและเมนูต่างๆหน้าร้านจะมีป้ายเมนูติดอยู่) ซึ่งส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวจะไม่พลาดสั่งได้แก่
- หอยเชลล์สดย่าง เหยาะโชยุลงไปเล็กน้อย ได้ทั้งกลิ่นหอมบวกกับอากาศเย็นๆ ฟินสุดๆ และฟินไปอีกขั้นขณะทานได้ซดน้ำซุปหอยร้อนๆ ยิ่งเพิ่มระดับความฟินเข้าไปอีก
- เซตข้าวหน้าหอยเม่น ที่เสริฟพร้อมกับ ซุปมิโสะปู ก็อร่อยไม่แพ้กันด้วยความสดใหม่ของวัตถุดิบ หรือหากใครกลัวเลี่ยนสามารถเหยาะโชยุลงไปก็อร่อยเหมือนกันเพิ่มเติมสามารถตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว
- ซูชิโกะเซ็น ในชุดมีไคเซ็นด้งขนาดมินิ 3 ถ้วย (หน้าหอยเชลล์ หน้าไข่ปลาแซลมอน และหน้าหอยเม่น) กับซูชิ 3 คำ และมีน้ำซุปปู ถือว่าเป็นเซตสุดคุ้มเหมาะสำหรับคนที่อยากทานหลายอย่างพร้อมกัน – (ร้านซูชิเครัน)
- ไคเซ็น คิตะมาเอะ ฟุนะโมริด้ง เมนูนี้เอาใจคนที่ชอบทานซาชิมิ แต่เป็นซาชิมิที่เราสามารถทำไคเซ็นด้งด้วยตัวเองได้อีกด้วย "ฟุนะโมริ" ที่อยู่ในชื่อเมนูหมายถึงการจัดวางอาหารทะเลบนภาชนะรุปทรงเหมือนเรือ ว่ากันว่าเป็นวิธีจัดอาหารแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคเอโดะ – (โอกุมะ โชเท็น)
จากนั้นนำท่านชม ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกาที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งาน มายาวนานกว่า 80 ปีแต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ. 2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปีพ.ศ. 2512
นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่และเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัย ฮอกไกโด แต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
นำท่านผ่านชม สวนโอโดริ สวนสวยใจกลางเมืองที่ทอดตัวยาวจากตะวันออกไปตะวันตกโดยมีความยาว 1,400 เมตร สวนโอโดริเป็นที่รู้จักในฐานะสวนสาธารณะแต่ที่จริงแล้วเป็นถนนโดยในปีค.ศ.1871 (ปีเมจิที่ 4) และยังเป็นที่จัดงานเทศกาลขึ้นชื่อของฮอกไกโดอีกด้วย
สามารถที่จะสนุกสนานเพลิดเพลินได้ตลอดทุกฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิมีเทศกาลดอกไลแล็ค ฤดูร้อนมีเทศกาล YOSAKOI โซรันและเบียร์การ์เด้น ฤดูใบไม้ร่วงมีเทศกาลออทั่มเฟสซึ่งรวบรวมเอาอาหารของฮอกไกโดมาไว้ และในฤดูหนาวมีเทศกาลหิมะซึ่งพัฒนามาเป็นเทศกาลระดับโลก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! บริการท่านด้วยเมนู บุฟเฟ่ต์ปูชูไว และปูทาราบะ นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลอื่นๆอีกมากมาย อาทิ หอยเชลล์ หอยนางรม กุ้งทะเล ซาชิมิสดๆ และซูชิหน้าต่างๆ (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกฮอล์)
ที่พัก Smile Hotel Premium, Sapporo ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day5 สนามบินชิโตเสะ - สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
10.00 นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG671 พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง 50 นาที)
15.50 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ