10 เมืองน่าเที่ยวไต้หวัน 2017-06-07 11:29:50 | อ่าน 14,011 ครั้ง
10 เมืองน่าเที่ยวไต้หวัน
1. ไทเปเมืองใหม่ (New Taipei)
เดินทางออกไปไม่ไกลจากไทเป ที่ไทเปเมืองใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายและคิดว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้ยิน เช่น เมืองโบราณจิ่วเฟิน ที่ตั้งอยู่บนทางลาดเขาที่สูงชัน เอกลักษณ์ของเมืองนี้คือทางเดินที่เป็นบันไดแคบๆ และโคมไฟสีแดงที่ห้อยประดับเหนือบันได ถ้าชอบบรรยากาศแบบเมืองเก่าและธรรมชาติสวยๆ ต้องไปต่อที่เขตผิงซี ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องงานเทศกาลโคมลอยและทางรถไฟสายเก่าขบวนเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์
หรือลองมาสัมผัสธรรมชาติริมชายฝั่งที่สวยงาม เช่น ที่อุทยานเย๋หลิว ซึ่งอยู่บนแหลมแคบๆ เป็นที่ตั้งของหินทรายรูปทรงแปลกและหินปะการังจำนวนมาก หรืออีกแห่งคือที่ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือและแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติชายฝั่งอี๋หลัน (Northeast and Yilan Coast National Scenic Area) มีลักษณะเป็นโขดหินขรุขระ หากเดินทางลงไปทางใต้ของชายฝั่งจะพบกับจุดชมวิวแห่งแรกคือ หนานหย่า ที่เต็มไปด้วยหินทรายรูปร่างแปลกและแนวปะการังที่ถูกน้ำกัดเซาะ
2. เถาหยวน (Taoyuan)
ภาพจาก:picssr.com
มาเถาหยวนได้ไม่ยากสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงจากไทเปประมาณ 3 ชั่วโมง ถึงแม้เถาหยวนจะหันหน้าเข้าหาชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ แต่สถานที่ท่องเที่ยวหลักกลับเป็นบรรดาภูเขาลูกเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง สถานที่แรกที่น่าสนใจของเมืองเถาหยวนคือ Futian Garden Farm ฟาร์มดอกไม้ที่ออกดอกสวยงามตลอดทั้งปี ได้ไอเดียมาจากฟาร์มดอกไม้ในฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ยังมีฟาร์มอีกแห่งที่สวยไม่แพ้กันและอยู่ไม่ไกลมากนักคือ Daxi Flower Ocean Farm ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครหลายเรื่อง รับรองได้ว่าถ่ายรูปออกมาสวยถูกใจแน่นอน
ภาพจากcommons.wikimedia.org
ถ้าใครไม่กลัวความสูงลองแวะไปเที่ยวที่ Xiao Wulai Skywalk ซึ่งเป็น skywalk แห่งแรกในไต้หวันกับความสูง 70 เมตร เมื่อมองลงไปข้างล่างผ่านพื้นกระจกใสจะเป็นน้ำตกและหุบเขา ปิดท้ายเอาใจขาช้อปกันที่ Gloria Outlets เป็นเอาท์เล็ทแห่งแรกในไต้หวันที่รวมสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกไว้ เช่น Coach, Hugo Boss, Kenzo, Michael Kors, Roberto Cavalli, Super Dry, Nike Factory Store และอีกมากมาย เดินทางไปไม่ยากสามารถแวะช้อปปิ้งได้ทั้งขาไปและขากลับเพราะเอาท์เล็ทตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ THSR สถานี Taoyuan เพียงแค่ข้ามถนนไปเท่านั้น
3. หนานโถว (Nantou)
หากใครชอบสัมผัสธรรมชาติต้องไม่พลาดมาเที่ยวที่หนานโถว เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและโดดเด่น ที่แรกที่จะมาแนะนำคือ ทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ทะเลสาบที่ฟ้าใสถูกห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาสูง วิธีเพลิดเพลินกับธรรมชาติของที่นี่ที่ง่ายที่สุดคือเดินเล่นหรือปั่นจักรยานตามเส้นทางริมทะเลสาบ หากคุณชื่นชอบการปั่นจักรยานแบบสุดๆ แค่ที่ทะเลสาบสุริยันจันทรายังไม่เต็มอิ่ม ในหนานโถวยังมีสถานที่อีกแห่งให้คุณปั่นจักรยานพร้อมเสพธรรมชาติสีเขียวชะอุ่มคือ หมู่บ้านรถไฟโบราณจี่จี๋ เมืองเล็กๆ ที่เหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลไลฟ์ คุณจะได้ปั่นจักรยานผ่านอุโมงค์ต้นไม้สีเขียวเลียบไปกับทางรถไฟโบราณให้บรรยากาศดีๆ แบบหาที่ไหนไม่ได้
รูปภาพจาก: car.cari.com.my
หากใครไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงแนะนำให้แวะไปที่ Aowanda National Forest Recreation Area ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของต้นเมเปิ้ลที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มทุกฤดูใบไม้ร่วง สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือฟาร์มชิงจิ้ง เป็นรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของทัศนียภาพภูเขาสูง ภายในฟาร์มมีเส้นทางเดินเขาอยู่หลายเส้นทางและยังมีแกะให้เล่นด้วยหลายร้อยตัว ในช่วงหน้าหนาวที่นี่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่สำหรับเล่นหิมะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน
4. เจียอี้ (Chiayi)
ทางรถไฟสายอาหลีซันเป็นหนึ่งในทางรถไฟที่ลาดชันของโลก ทางรถไฟเชื่อมระหว่างเจียอี้กับเทือกเขาอาหลีซัน แล่นผ่านเส้นทางคดเคี้ยว สองข้างทางเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามของผืนป่า ในส่วนเขตอนุรักษ์เทือกเขาอาหลีซันเต็มไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และอากาศบริสุทธิ์ หากอยากชมทะเลหมอกสามารถโดยสารรถตู้หรือรถไฟขึ้นมาที่จู้ซันแต่เช้าตรู่ จากจุดนี้สามารถมองลงมาเห็นทะเลหมอกอันสวยงามได้
5. ไถหนาน (Tainan)
รูปภาพจาก: www.taiwan.net.tw
เมืองหลวงโบราณเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะไต้หวัน เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เริ่มที่เขตอันผิงเป็นเขตประวัติศาสตร์ ที่ตั้งของป้อมโบราณอันผิงและอาคารเก่าแก่อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อยอีกหลากหลายชนิด
รูปภาพจาก: blog.xuite.net
ออกนอกเมืองจะพบกับธรรมชาติอันหลากหลาย เช่น อุทยานแห่งชาติไถเจียง ซึ่งคลอบคลุมพื้นที่ทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก และยังมีพื้นที่ที่มีความสำคัญทางด้านระบบนิเวศอีกด้วย อีกแห่งที่ผู้ชื่นชอบทะเลไม่ควรพลาดคือ แหล่งทิวทัศน์แห่งชาติชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงฤดูหนาวที่นี่เต็มไปด้วยนกนานาชนิดซึ่งอาศัยอยู่ตามนาเกลือที่ถูกทิ้งร้าง
6. เกาสง (Kaohsiung)
รูปภาพจาก: www.khh.travel
เกาสงเป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของไต้หวัน ใครที่ชื่นชอบเรือจะต้องติดใจที่นี่เป็นอย่างมาก เพราะสามารถล่องเรืออย่างช้าๆ ที่แม่น้ำอ้ายเหอหรือจะนั่งเรือสำราญจากท่าน้ำเจินอ้ายก็ได้ หรือหากอยากเพิ่มความโรแมนติกอีกซักนิดต้องไปที่แม่น้ำแห่งความรัก (Love river) อีกชื่อก็คือคลองเกาสง สองฝั่งแม่น้ำจะเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวของสวนต่างๆ และเส้นทางสำหรับปั่นจักรยาน ตอนกลางคืนจะตกแต่งด้วยไฟสวยงาม และถ้าชอบศิลปะของสีสันลองแวะไปที่ Dome of Light อยู่บริเวณสถานี KMRT Formosa Boulevard เสาและเพดานทำจากแก้ว สีและแสงไฟส่องสว่างทั่วสถานี
ถ้าอยากเดินชิมอาหารท้องถิ่นแนะนำให้ไปที่ตลาดถนนซันฟ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเกาสง หากอยากช้อปปิ้งเสื้อผ้าต้องไปถนนอันหนิง สำหรับตลาดกลางคืนที่น่าไปคือตลาดกลางคืนลิ่วเหออยู่บริเวณสถานีรถไฟเกาสงเช่นกัน อีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาสงคือทะเลสาบดอกบัว ทิวทัศน์โดยรอบทะเลสาบสวยงามมากและยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์มังกรและเสือสูง 700 เมตรอีกด้วย
7. อี๋หลัน (Yilan)
อี๋หลันเป็นสถานที่ซึ่งเสมือนถูกแยกออกจากโลกภายนอก เป็นเหมือนโอเอซิสของคนที่หลงเสน่ห์ธรรมชาติ อี๋หลันตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลแปซิกฟิก และมีส่วนที่มีภูเขาโอบล้อมจึงเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม สถานที่แรกที่อยากแนะนำคือ ไท่ผิงซาน ที่มีทิวทัศน์สวยงามในทุกฤดู ที่ถัดมาคือหมิงฉือ ที่นี่มีสระน้ำและสวนสไตล์ราชวงศ์ถัง และป่าศักดิ์สิทธิ์ที่มีต้นไม้เก่าแก่อายุนับพันปี
ไปผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่เจียวซีมีรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ทันสมัยและมีชื่อเสียง ถ้าอยากชมวิวริมทะเลต้องที่ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือและแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติชายฝั่งอี๋หลัน (Northeast and Yilan Coast National Scenic Area) ซึ่งนอกจากธรรมชาติจะสวยงามแล้วยังมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายทั้งดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น ปีนเขา เจ็ทสกี
8. ฮวาเหลียน (Hualien)
หนึ่งในสามเมืองเล็กๆ ที่มีควมงดงามทางธรรมชาติทางชายฝั่งตะวันออกของไต้หวัน ทางเหนือของเมืองคืออุทยานแห่งชาติทาโรโกะซึ่งมีเอกลักษณ์คือถนนที่สร้างตัดผ่านหน้าผาสูงชัน อยู่ใต้แนวกำแพงหินอ่อนสูงหลายพันเมตร และยังมีธรรมชาติที่สวยงามไม่เหมือนที่ไหนๆ
ลองแวะไปนั่งพักสบายๆ ที่ทะเลสาบหลีหยู่ หรือทะเลสาบปลาคาร์ฟ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเขตนี้ มีเรือถีบและจักรยานให้เช่า ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและร้านกาแฟให้นั่งกันเพลินๆอีกด้วย ถ้าอยากได้วิวมุมสูงของเมืองต้องไปที่ภูเขาลิ่วซือสือซัน ภูเขาริมฝั่งที่ยกระดับสูง 800 ถูกปกคลุมด้วยทุ่งดอกไม้จีนเป็นพรมสีเหลืองทั่วบริเวณ สุดท้ายถ้ามุ่งลงใต้จากฮวาเหลียนควรแวะที่สือทีผิง เป็นสถานที่ที่มีทัวร์ชมวาฬ นอกจากนี้วิวของชายฝั่งยังสวยงามมากๆ
9. เผิงหู (Penghu)
เผิงหูประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ ด้วยสภาพอากาศและภูมิประเทศทำให้ที่นี่มีความแตกต่างและน่าสนใจ เช่น เกาะทงปัน เพราะความสวยงามแปลกตาของหน้าผาหิน ที่นี่จึงถูกเรียกว่าเป็น เยลโลสโตนแห่งเผิงหู อีกหนึ่งทิวทัศน์หาไม่ได้จากที่ไหนซึ่งถูกสร้างด้วยมนุษย์คือ แนวหินดักปลารูปหัวใจบนเกาะซีเหม่ย สร้างจากแนวปะการังและหินภูเขาไฟ
สถานที่ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ สันเขาจี๋เป่นยาว 800 เมตร ที่เกิดจากการรวมตัวของปะการังชิ้นเล็กๆ และเปลือกหอยจำนวนมากที่แตกยื่นออกมา สำหรับอาหารขึ้นชื่อของเผิงหูที่ต้องลองชิมคือ อาหารทะเลชนิดต่างๆ โดยเฉพาะปลาหมึกและปลาตัวเล็กตากแห้ง ส่วนของหวานที่ห้ามพลาดคือไอศกรีมลูกแพร์
10. หมาจู่ (Mazhu)
หมาจู่มีเกาะสิบเก้าเกาะที่แตกต่างจากเกาะอื่นๆ ในไต้หวันอย่างมาก ที่นี่มีทั้งหมู่บ้านที่สวยงามและป้อมปราการที่ยังไม่ถูกทำลาย หมาจู่เป็นบริเวณที่ทำสงครามมาหลายปีจึงมีฐานทัพและป้อมปราการอยู่มากมาย สถานที่ที่น่าสนใจที่สุดคืออุโมงค์น้ำเป๋ยไห่ ถ้ำขนาดใหญ่ที่ถูกขุดขึ้นเพื่อให้ทหารสามารถขึ้นพาหนะได้อย่างปลอดภัย
ภาพจากjjli.pixnet.net
อีกแห่งคือบ้านในเป่ยกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่คงเอกลักษณ์ความเป็นไต้หวันไว้มากที่สุด บ้านในหมู่บ้านก่อสร้างด้วยหินแกรนิตแผ่นหนา และกระเบื้องก็ทำจากหลังคาหิน บ้านหลายหลังเปิดให้บริการเป็นโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยว
ที่มา www.govivigo.com
|