เลื่อนขึ้น
ทัวร์ถูก ทัวร์เกาหลี ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์ดี ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์ทั่วโลก ทัวร์ราคาถูก ทัวร์ราคาประหยัด ทัวร์บริการดี ทัวร์บริการประทับใจ ทัวร์ดีมีคุณภาพ

 แนะนำประเทศจีน
 2016-10-31 20:33:51 | อ่าน 11,934 ครั้ง

แนะนำประเทศจีน

ข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศจีน
สาธารณรัฐประชาชนจีน ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ส่วนใหญ่ ที่ชาวตะวันตกเรียกรวม ๆ ว่า China (จีน) ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮั่น จีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก และมีขนาดเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงรัสเซีย และแคนาดา

จีนเป็นชนชาติที่เก่าแก่ที่มีวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองในอดีตสืบเนื่องมากว่า 5,000 ปี จนเรียกได้ว่า ถนนทุกสายกำลังมุ่งสู่ปักกิ่งทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการกีฬา การเปิดประเทศครั้งใหม่ของจีนนี้ เชิญชวนให้ผู้คนหลั่งไหลไปเที่ยวมากขึ้นนับล้านๆคนในแต่ละปี คาดว่าอีกไม่นานจะมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวจีนในอัตราสูงที่สุดเป็นอันดับ หนึ่งของโลก

"ปักกิ่ง" เมืองหลวงของจีน พัฒนาขึ้นมากเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าที่ทันสมัย ไซต์งานกระจายอยู่ทั่วไปในวงล้อมของวงแหวนที่ 5 คับคั่งด้วยรถยนต์ที่แออัด อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและร้อนแรง
สภาพภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของประเทศจีนเป็นแบบมรสุมภาคพื้นทวีป ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ โดยลมเหนือจะมีอิทธิพล ต่อประเทศอย่างสูงในฤดูหนาว ขณะที่ลมใต้จะมีบทบาทในฤดูร้อน โดยจะเห็นได้อย่างเด่นชัดว่า มีฤดูฝนปนอยู่กับฤดูร้อน ด้วยภูมิอากาศที่ซับซ้อน และ ภูมิประเทศที่หลากหลายของจีน ทำให้สามารถแบ่งโซนอิงอุณหภูมิ กับ โซนอิงความชื้นของ ภาคพื้นประเทศจีนได้ คือ โซนอิงอุณหภูมิจากภาคใต้จนถึงภาคเหนือแบ่งออกได้เป็น แถบเส้นศูนย์สูตร ร้อนชื้น กึ่งร้อนชื้น อบอุ่น และแถบหนาวเย็น และแบ่งโซนอิงความแห้ง-ความชื้นจากตะวันออกเฉียงใต้ ถึง ตะวันตกเฉียงเหนือเป็นแถบความชื้นสูง
เวลา
เวลาในสาธารณรัฐประชาชนจีนเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
ภาษา
ประเทศจีนใช้ภาษาจีนกลาง หรือ ผู่ทงฮว่า เป็นภาษาราชการ ชาวจีนในมณฑลต่างๆ มีภาษาท้องถิ่นที่แตกต่างกัน เช่น เสฉวน หูหนาน กวางตุ้ง ไหหลำ และฮกเกี้ยน สำหรับภาษาอังกฤษจะใช้กันตามโรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
เงินตรา
สกุลเงินของจีนเรียกว่า เหรินหมินปี้ และมีหน่วยเรียกเป็น หยวน (ตัวย่อ CNY) อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน อยู่ที่ประมาณ 5 บาทไทย สำหรับธนบัตรจีนจะแบ่งออกเป็นใบละ 1 หยวน, 5 เจี่ยว, 1, 2 และ 5 เฟิน


ระบบไฟฟ้า
จีนใช้ระบบกระแสไฟแบบ AC 220 V, 50 Hz. อาคารส่วนใหญ่ในประเทศใช้ปลั๊กไฟแบบมาตรฐาน แต่ก็ยังมีบางที่ที่ยังใช้ปลั๊กแบบสามตาอยู่ ดังนั้น หากท่านต้องการนำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากเมืองไทยไปใช้ด้วย กรุณานำตัวแปลงหรือปลั๊กแบบใช้ได้ทั่วโลกติดตัวไปด้วย หรือจะไปขอยืมจากโรงแรมที่พักของท่านก็ได้ค่ะ โดยจะมีให้บริการตามโรงแรมในจีนบางแห่งค่ะ

                                                 ตัวอย่างปลั๊กไฟและตัวแปลงที่ใช้กับปลั๊กไฟในจีน
 
 
ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
การใช้โทรศัพท์
โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถใช้ได้โดยท่านต้องขอเปิดใช้บริการ IR INTERNATIONALROAMING กับระบบโทรศัพท์ของท่าน ก่อนเดินทาง เพื่อความสะดวกควรใช้บัตรโทรศัพท์ที่มีขายในโรงแรม และร้านค้าทั่วไป โดยหมุน 001-66-2 (2-กรุงเทพฯ / 38-ชลบุรี / 53-เชียงใหม่) ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์มือถือ 001-66-1 (หมายเลขนำหน้าของโทรศัพท์มือถือ) ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ 

โทรศัพท์สาธารณะในเมืองจีน จะมีบริการหยอดเหรียญ ซึ่งท่านจะต้องเสียค่าบริการครั้งละ 1 หยวนหรือราวครั้งละ 4.7 บาทค่ะ นอกจากนี้ ยังมีแบบใช้บัตร (Card Phone) ที่สามารถใช้โทรออกต่างประเทศได้อีกด้วยค่ะ Card Phone นี้สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
การให้ทิป
การให้ทิปในต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง
อาหารการกิน
อาหารจีนต้นตำรับที่พลาดไม่ได้ เมื่อเดินทางไปเยือนเมืองจีน ก็คือ อาหารเสฉวน เอกลักษณ์อยู่ตรงที่รสเผ็ดและชา รสชาติสด หอม ชุ่มคอ และอร่อย อาหารจานเด็ดของเสฉวน ได้แก่ "หมาผัวโต้วฝู่" หรือ ผัดเต้าหู้เนื้อสับ อาหารหูหนาน หรือ เซียงไช่ ก็เป็นอาหารขึ้นชื่ออีกประเภท มีจุดเด่นอยู่ที่รสเปรี้ยว และเผ็ด นอกจากนี้ เกี๊ยวต้มจีน หรือ เจี่ยวจือ ถือเป็นอาหารท้องถิ่นที่ชาวจีนนิยม รับประทานกันมากค่ะ ท่านที่ไปเที่ยวเมืองจีน อย่าพลาดการลิ้มลองอาหารเลื่องชื่อ เหล่านี้ได้ จากร้านอาหาร และ ภัตตาคารต่างๆของโรงแรมในจีนกันนะคะ ทั้งนี้ อาหารในเมืองจีนส่วนใหญ่รสชาติค่อนข้างจืด สำหรับท่านที่ชอบทาน อาหารรสจัด สามารถนำเครื่องปรุงติดตัวไปรับประทานเองได้นะคะ เช่น น้ำพริก หรือซอสปรุงรสต่างๆ ค่ะ
รายการช้อปปิ้ง
สินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา และอื่น ๆ มากมาย
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
•    กำแพงเมืองจีน (ปักกิ่ง)
•    วัดพระเขี้ยวแก้ว (ปักกิ่ง)
•    จตุรัสเทียนอันเหมิน (ปักกิ่ง)
•    พระราชวังกู้กง (ปักกิ่ง)
•    พระราชวังฤดูร้อน (ปักกิ่ง)
•    สนามกีฬาโอลิมปิค 2008 (ปักกิ่ง)
•    หอฟ้าเทียนถาน (ปักกิ่ง)
•    หอไข่มุก (เซี่ยงไฮ้)
•    หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮู้ (เซี่ยงไฮ้)
•    ตึก SWFC (เซี่ยงไฮ้)
•    ฯลฯ
เทศกาลสำคัญ
•    วันไหว้พระจันทร์ : กล่าวกันว่าในคืนวันไหว้พระจันทร์ ดวงจันทร์จะสุกสว่างและมองเห็นเป็นดวงกลมที่สุดในรอบปี ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนแปดของจีน
•    วันสารทจีน : วันสารทจีน ลูกหลานจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษโดยพิธีเซ่นไหว้ โดยหญิงที่แต่งงานแล้วไม่สามารถที่จะกลับมาไหว้บรรพบุรุษของตนเองนอกเสียจาก มีพ่อหรือแม่ของตนเสียชีวิตไปแล้วจึงสามารถกลับมาบ้านตนเองเพื่อกราบไหว้ได้ แต่หากพ่อหรือแม่ของฝ่ายหญิงที่แต่งงานแล้วยังไม่เสียชีวิต ฝ่ายหญิงก็ต้องไหว้บรรพบุรุษของบ้านสามีนั้นเอง
•    เทศกาลชีซี : วันแห่งความรักของประเทศจีน เทศกาลชีซียังรู้จักกันในนาม “เทศกาลหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า” หรือที่ญี่ปุ่นเรียก “เทศกาลทานาบาตะ” อีกด้วย
•    เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง : เทศกาล "บ๊ะจ่าง" หรือ หรือเทศกาลไหว้ "ขนมจ้าง" เป็นเทศกาลของชาวจีน ตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามของปฏิทินจีน เรียกชื่อตามตำราว่า "โหงวเหว่ยโจ่ย" บ๊ะจ่าง
•    เชงเม้ง : ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน คือ ไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน (ฮวงซุ้ย) เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อ ที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ
•    วันตรุษจีน : ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ทุกคนต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่างหยุดงาน โรงเรียนสถาบันการศึกษาต่างปิดเทอมในช่วงนี้ เป็นปิดเรียนฤดูหนาว ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่ไม่สามารถหยุดงานได้ หน่วยงานห้างร้านต่างก็หยุดงาน 3-4 วัน เมื่อใกล้วันปีใหม่จีน ผู้คนต่างก็มีการตระเตรียมงานปีใหม่
•    วันชาติจีน : ก่อนที่จะมีการกำหนดวันดังกล่าวให้เป็นวันชาติจีนใหม่ ทางคณะรัฐบาลยุคนั้นซึ่งนำโดยประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตง      (毛泽东) ได้เตรียมการหลายอย่างเพื่อการนี้ จึงเป็นที่มาของสัญลักษณ์ธงประจำชาติ พิธีการชักธงขึ้นสู่ยอดเสาที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณหน้าจัตุรัสเทียนอันเห มิน (天安门广场) ตลอดจนเพลงชาติและพิธีกรรมต่างๆ ที่ผู้นำจีนใหม่ทุกยุคทุกสมัยล้วนปฏิบัติสืบต่อกันเป็นธรรมเนียม